มากกว่า 20 ปีที่ “หฤษฎ์ เรืองหฤษฎ์” ในบทบาทพนักงานออฟฟิศได้ใช้ความรู้ ประสบการณ์พิสูจน์ความสามารถสู่หน้าที่สำคัญต่างๆในองค์กรทั้งภาครัฐ เอกชนชั้นนำของประเทศ โดย “หฤษฎ์” เริ่มต้นการทำงานในวงการ Event ทำให้มีโอกาสเข้านำเสนองานกับลูกค้าทั้งภาคราชการ และเอกชน จนเป็นจุดเริ่มต้นของการสั่งสมมิตรภาพในระดับต่างๆ
“ผมคิดว่าช่วงเริ่มต้นการทำงานเป็นโอกาสที่ดีมาก เพราะได้ลองถูกลองผิดตั้งแต่ยังเด็ก ก่อนผมเข้าไปหาลูกค้า ผมพยายามหาข้อมูลหมดว่าลูกค้ามีตำแหน่งอะไร เคยทำหน้าที่ไหนมาก่อน เรียนที่ไหน เวลาว่างชอบทำอะไร มีข่าวอะไรบ้าง บางครั้งหาไปถึงวันครบรอบ วันสำคัญต่างๆของลูกค้า เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสการสร้างความประทับใจตั้งแต่วินาทีแรกที่พบกัน พอเข้าพบลูกค้า ผมสังเกตแม้กระทั่งรายละเอียดแวดล้อมรอบตัว เพราะทำให้เราประเมินระดับความต้องการลูกค้าได้ จนสามารถปรับบริการให้ตรงใจกับความต้องการและโจทย์หลักของลูกค้า เมื่อเราชนะใจลูกค้าได้ นี่จะเป็นประตูบานสำคัญ สู่โอกาสทางธุรกิจและมิตรภาพระยะยาว”
จากนั้น “หฤษฎ์” ได้มีโอกาสไปปฏิบัติงานในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายพิธีการ และกิจกรรมพิเศษ การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ณ จังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นเวลากว่า 2 ปี ที่ “หฤษฎ์” ได้เรียนรู้รูปแบบการบริหารจัดการงานระดับโลก และเป็นโอกาสขยายเครือข่ายการทำงานให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
“ที่งานพืชสวนโลกฯ ผมได้ทำงานร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการทั้งจากส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค นี่เป็นอีกโอกาสที่ผมได้เรียนรู้ระบบการทำงานกับราชการ ซึ่งในช่วงนั้นผมมองว่ามีเสน่ห์นะครับ วัยรุ่นน้อยคนที่จะได้รับเชิญร่วมประชุมงานสำคัญๆกับหัวหน้าส่วนราชการ ที่สำคัญผู้บริหารของผม นอกจากจะให้ผมเป็นผู้แทนไปร่วมการประชุมแล้ว ยังให้โอกาสผมสามารถแสดงความคิดเห็นต่างๆได้อีกด้วย จุดนี้เองที่ทำให้ผู้ใหญ่เริ่มมองเห็นตัวตนของเรา และนำมาสู่โอกาสต่างๆตลอด 2 ปี ในขณะเดียวกันผมยังมีโอกาสเรียนรู้รูปแบบการทำงาน การวางตัวที่เรียบร้อยสุภาพ น่าเคารพนับถือจากผู้ใหญ่ ทั้งท่านอดีตนายกรัฐมนตรี ท่านอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ไปจนถึงเจ้านายฝ่ายเหนืออาวุโสท่านต่างๆ ซึ่งผมมองว่าสิ่งเหล่านี้คือเบ้าหลอมที่ดีของการเติบโตไปเป็นนักบริหารงานที่ต้องแวดล้อมด้วยบุคคลทุกระดับ”
เมื่อเสร็จสิ้นจากหน้าที่ในงานพืชสวนโลกฯ “หฤษฎ์” ได้รับโอกาสให้เป็นผู้ช่วยผู้บริหารระดับสูงในองค์กรภาคเอกชนหลายแห่ง ก่อนจะปรับเส้นทางไปสู่นักการตลาดที่สร้างผลงานกิจกรรมทางการตลาดร่วมกับการแสวงหาพันธมิตร เพื่อขับเคลื่อนยอดขายให้ทะลุเป้าหมาย และเกิด Corporate Branding ไปในคราวเดียวกัน นับเป็นส่วนผสมที่ลงตัวทั้งงานบริหารและงานการตลาด ทำให้ “หฤษฎ์” มีโอกาสใช้ทักษะต่างๆเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ในเวลาต่อมา
“งานประจำล่าสุดที่ผมมีโอกาสดีมากๆ คือการเป็นผู้เชี่ยวชาญพัฒนา SMEs สำนักผู้อำนวยการ ของสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งเป็น 1 ใน 11 สถาบันเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่นี่ผมได้ใช้ความรู้ครบทุกแขนงที่ตัวเองมี ทั้งด้านการสื่อสาร การบริหารจัดการ การตลาด การประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมพิเศษเพื่อสังคม และยังสามารถดึงเครือข่ายคุณภาพต่างๆมาร่วมในภารกิจที่ได้รับมอบหมาย เพื่อร่วมกันพัฒนา ยกระดับศักยภาพให้ผู้ประกอบการ SMEs มีความสามารถในการแข่งขัน และเข้าถึงโอกาสทางการตลาดด้วยเนื้องานหลัก ผมต้อง Direct report ท่านผู้อำนวยการสถาบันฯ ผมจึงได้รับข้อแนะนำแนวทางการทำงานในระดับบริหาร และด้วยวิสัยทัศน์ของท่านผู้อำนวยการฯแต่ละท่าน ผมจึงได้มีโอกาสเสนองานใหม่ๆ ที่ทำให้ผมรู้สึกว่า คุณค่าแท้จริงของการมีอยู่ของบุคคลากร คือการให้พื้นที่เขาใช้ศักยภาพให้เป็นประโยชน์ต่อองค์กร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน”
จนถึงวันนี้ “หฤษฎ์” ได้ผันตัวเองจากพนักงานออฟฟิศ สู่นักบริหารในกิจการเล็กๆที่ชื่อ “ฤทธิ์เยอะ กรุ๊ป” ที่เขาได้ส่งเทียบเชิญผู้ทรงคุณวุฒิ นักบริหาร นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา ผนึกกำลังกับพันธมิตรมากมาย มาร่วมภารกิจสุดพิเศษ ในธีม THE GAME CHANGER เพื่ออัพเดท Trends & Tools สำคัญในการทำธุรกิจให้กับผู้บริหารที่ต้องใช้วิสัยทัศน์นำทิศทางองค์กร ผู้ที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลง เติบโตให้ธุรกิจ รวมถึงผู้บริหารด้านการตลาดที่ต้องการ Reskill – Upskill และขยาย Connection และผู้ที่ต้องการเปิดมุมมองใหม่ๆด้านธุรกิจและการตลาด ในรูปแบบ Cool Class เร็วๆนี้
“ผมเห็นว่าเพื่อนๆ น้องๆหลายๆคนมีอาชีพที่ 2 ที่สร้างรายได้และความสุขตามความชอบ ความถนัดของตัวเอง ผมก็เลยคิดว่าเราก็น่าจะทำบ้าง ทำในรูปแบบที่ตัวเองถนัด โดยไม่มีกรอบอะไรมากั้นไว้ ผมคิดว่าลูกค้าเองก็มองหาประสบการณ์ใหม่ๆที่พิเศษเฉพาะตัว และมองหา High Quality Connections ซึ่ง THE GAME CHANGER ตอบโจทย์ความต้องการนี้ สุดท้ายที่ผมอยากจะฝากไปถึงน้องๆที่กำลังจะก้าวออกมาทำกิจการของตัวเอง หรือจะเติบโตก้าวหน้าขึ้นไปในสายงานต่างๆ ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้ และอยากให้คิดเสมอว่าแม้บางช่วงจังหวะที่ชีวิตต้องเดินช้าบ้าง หรือต้องสะดุดล้มบ้าง เราต้องมีสติเพื่อหาเป้าหมายที่ชัดเจนให้เจอ แล้วมุ่งมั่นอย่างกล้าหาญที่จะก้าวไปข้างหน้า ด้วยความจริงใจ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความสม่ำเสมอ การให้เกียรติคนทุกระดับ และต้องหมั่นพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ โดยไม่ยึดติดความสำเร็จในอดีต แต่ให้คำนึงถึงองค์กร ส่วนรวม และ Stakeholders เป็นสำคัญ”
Comments